วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ตำนานกาแฟ ตอน การดื่มกาแฟของชาวอิตาลี

ทางอิตาลีนิยมดื่มเอสเพรสโซร้อน(ต้องย้ำว่าร้อน เพราะบ้านเราทานแต่เย็น) ทานกันคนละ 4-5 แก้ว คล้ายๆเหล้า แก้วต่อแก้วเลย เพราะที่นั้นไม่ได้ใช้เมล็ดกาแฟคั่วเข้มหรือไหม้เหมือนบ้านเรา จึงไม่ขม ทานได้เรื่อยๆ ยืนจิบกันหน้าเคาน์เตอร์ (ที่นั่นไม่ค่อยมีที่นั่งมากเหมือนบ้านเรา คนก็เยอะมาก)
           




             ชาวตะวันตกนิยมดื่มคาปูชิโนหรือลาเต้ในช่วงเช้า พร้อมอาหารเช้าหรือหลังอาหารเช้า เพราะมีส่วนผสมของนม ทานง่ายไม่เข้มเกินไปสำหรับช่วงเช้าๆอากาศดีๆ แล้วพอทานื้อเที่ยงเสร็จก็จะทานพวกกาแฟดำหรือเอสเพรสโซไปเลย เพื่อช่วยย่อยอาหาร   ตอนบ่ายก็จิบชากับขนม ตอนเย็นมื้อเย็นก็ยังทานกาแฟเพื่อช่วยย่อยอีกเช่นกันและรวมถึงการดื่มไวน์ด้วยเช่นกันก็มักจะทานหลังมื้อหรือระหว่างมื้ออาหารเลยไม่มีการดื่มกาแฟเพื่อแก้ง่วงเหมือนบ้านเรา จะมีบ้างแล้วแต่กรณีที่ดื่มกาแฟเพื่อแก้ง่วง ต้องดูวัฒนธรรมของแต่ละที่ด้วย คือมันเหมือนเครื่องดื่มที่ดื่มไปคุยไป ดื่มไปทำงานไป ดื่มไปพักผ่อนไป เหมือนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์




           ชาวตะวันตกจึงนิยมดื่มกาแฟที่คาเฟ่ ( Cafe’) คือมีกาแฟ แอลกอฮอล์  บุหรี่  อาหาร  ไม่ใช่คาเฟ่บ้านเราที่มี เฉพาะกลางคืน  มีตลกประมาณนั้น  จึงเกิดเป็นสังคมของกลุ่มคนขึ้น เป็นที่นัดพบ เป็นที่พบปะสังสรรค์ พูดคุย เจรจาธุระ พักผ่อน อ่านหนังสือ สบายๆไม่เป็นทางการมากนัก 



      ถ้าเป็นร้านกาแฟเฉพาะก็อาจจะมีโรงคั่วกาแฟอยู่ด้านหลังด้วย คือคั่วกาแฟมาขายหน้าร้านเป็นถุงๆ และขายเป็นเครื่องดื่มด้วย พวกนี้จะมีกาแฟที่ดีเป็นพิเศษ หาได้ยาก อร่อยมากๆ แต่อาจจะออกแนวอินดี้หน่อย คือต้องเป็นคอกาแฟจริงๆ เพราะถือเป็นศิลปะเลยทีเดียว พิถีพิถันในการทำมากๆ ชงด้วยบาริสต้า (คนชงกาแฟ) ชงด้วยเครื่องกาแฟที่ดีมากๆ(แพงมากๆด้วย) ด้วยเครื่องบดชั้นเลิศ 2-3 เครื่องเพื่อเมล็ดกาแฟหลายๆตัว มีเมล็ดกาแฟให้เลือกมาก         

                  ฝรั่งค่อนข้างให้ความสำคัญกับทุกๆ  ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำกาแฟที่ดี ตั้งแต่ใช้เมล็ดกาแฟที่ดีหลากหลาย เครื่องชงที่ดี ทำช็อตกาแฟได้ดี สตรีมนมได้เนียน อุณหภูมิเสถียร ใช้เครื่องบดที่ดี เพื่อให้ผงกาแฟที่ได้มีคุณภาพ  ได้ผงที่มีลักษณะดีไม่เกาะกันเป็นก้อน   ทำงานต่อเนื่องได้มากๆ   และบาริสต้าที่เก่งมากๆ พอลูกค้าเห็นอุปกรณ์ต่างๆก็เชื่อมั่นว่าจะได้กาแฟที่ดีมาดื่ม 

                 คนไทยนิยมดื่มกาแฟเย็น เข้มข้นหวานมัน ถอดแบบพฤติกรรมมาจากกาแฟโบราณ ต้องมีนมข้นหวาน ทั้งที่กินแล้วอ้วน โรคภัยเยอะ แต่ฝรั่งนิยมกาแฟที่ไม่ปรุงแต่งมากไป กาแฟดำก็ไม่เติมน้ำตาล   กาแฟนมก็ไม่เติมน้ำตาลเพราะได้ความหวานจากนมอยู่แล้ว

                 พูดไปพูดมาก็เพียงเพื่อบอกว่า   ร้านคลิมคอฟฟี่พยายามที่จะลูกค้าได้ดื่มกาแฟดีๆ ชงด้วยเครื่องกาแฟดีๆ บดผ่านเครื่องบดดีๆ   ใช้เมล็ดกาแฟดีๆ เหมือนท่านได้ไปดื่มกาแฟที่อิตาลี   ฝรั่งเศส หรืออเมริกา ให้ท่านได้รับประสบการณ์เหมือนอยู่เมืองนอก แม้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ตั้งใจจริง  จึงอยากให้ลูกค้าได้เห็นความตั้งใจ และความแตกต่างจากที่อื่นๆในจังหวัด ซึ่งถ้าเป็นความตั้งใจ และการลงทุนระดับนี้ ราคาระดับนี้อาจดูต่ำเกินความเป็นจริง แต่ความเป็นจริงคือหลายคนไม่รู้ การตั้งราคาสูงตามความเป็นจริงก็อาจทำให้ร้านอยู่ไม่นานก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น: